
Rolex Daytona สัญลักษณ์ของความเร็วและความหรูหรา
Rolex Daytona ถือเป็นหนึ่งในนาฬิกาที่ได้รับความนิยมและยกย่องมากที่สุดในโลก ทั้งในแง่ของการออกแบบและเทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์ โดยเป็นที่รู้จักในฐานะนาฬิกาที่มีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับการแข่งรถความเร็วสูง และกลายเป็นสัญลักษณ์ของนักแข่งรถและคนรักรถมานานหลายทศวรรษ
จุดเริ่มต้น
โรเล็กซ์ เปิดตัวนาฬิการุ่น Cosmograph Daytona ครั้งแรกในปี 1963 เพื่อรองรับความต้องการของนักแข่งรถที่ต้องการนาฬิกาที่สามารถวัดความเร็วได้แม่นยำ นาฬิการุ่นนี้ถูกตั้งชื่อว่า โรเดย์โทน่าจากสนามแข่งรถ Daytona International Speedway ในฟลอริดา ที่เป็นศูนย์กลางการแข่งรถที่สำคัญในยุค 60’s และยังเป็นที่ที่นักแข่งระดับตำนานเช่น Sir Malcolm Campbell เคยทำสถิติการขับรถความเร็วสูง
คุณสมบัติที่โดดเด่น
โรเล็กซ์ เดย์โทน่า เป็นนาฬิกา Chronograph หรือระบบจับเวลา พร้อมกับสเกล Tachymeter บนขอบหน้าปัดที่ใช้ในการคำนวณความเร็วในการขับรถ ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่มีประโยชน์มากสำหรับนักแข่งรถ นอกจากนี้ เดย์โทน่า ยังมีความทนทานต่อแรงกระแทกและสภาพแวดล้อมที่แปรปรวน ทำให้มันกลายเป็นนาฬิกาที่นักแข่งรถหลายคนเลือกใช้
จากวงการนักแข่งรถสู่วงการเป็นนาฬิกาแห่งความหรูหรา
ในช่วงแรก เดย์โทน่า อาจไม่ได้รับความนิยมในวงกว้างมากนัก แต่ในยุค 80’s เป็นต้นมา โรเล็กซ์ เดย์โทน่า ได้กลายเป็นที่ต้องการอย่างสูงในตลาดนาฬิกาหรู ส่วนหนึ่งเพราะความเชื่อมโยงกับดาราฮอลลีวูดชื่อดังอย่าง Paul Newman ที่สวมใส่ เดย์โทน่า เป็นประจำ จนทำให้รุ่นที่เขาใส่กลายเป็นที่รู้จักในนาม “Paul Newman Daytona” และกลายเป็นนาฬิกาที่มีราคาประมูลสูงที่สุดรุ่นหนึ่งในประวัติศาสตร์
งานประมูลเดือนตุลาคม 2017
เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2017 นาฬิกา โรเล็กซ์ เดย์โทน่า (รหัส 6239) ที่เคยเป็นของโดยนักแสดง Paul Newman ถูกประมูลไปในราคา 17.75 ล้านเหรียญสหรัฐที่นิวยอร์ก ทำให้เป็นนาฬิกาข้อมือที่แพงที่สุดและเป็นนาฬิกาที่แพงที่สุดอันดับสองที่เคยขายในการประมูล พฤศจิกายน 2018)
Manufacturer | Rolex |
Model | Cosmograph Daytona “Paul Newman” |
Reference | 6239 |
Year | 1963 |
Material | Stainless steel |
Dimensions | 37mm Diameter |
Crystal | Plexiglass |
Caliber | Manual, cal. 722-1, 17 jewels |
วิวัฒนาการทางเทคโนโลยี
โรเล็กซ์ เดย์โทน่า ได้รับการพัฒนาเทคโนโลยีตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยในปี 1988 โรเล็กซ์ ได้เปลี่ยนการใช้งานกลไกเครื่องจักรกลจากการไขลานมือเป็น ระบบออโตเมติก และในปี 2000 โรเล็กซ์ ด้พัฒนาเครื่องจักรกล Caliber 4130 ซึ่งเป็นกลไกที่พัฒนาขึ้นเองโดยเฉพาะสำหรับ เดย์โทน่าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำในการใช้งาน
เดย์โทน่าตำนานที่ไม่มีวันจบ
จนถึงวันนี้ โรเล็กซ์ เดย์โทน่า ยังคงเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากนักสะสมนาฬิกาและนักแข่งรถ ด้วยความหรูหราและความเป็นตำนานที่แฝงอยู่ในนาฬิกาเรือนนี้ ทำให้ เดย์โทน่าเป็นนาฬิกาที่เป็นมากกว่าแค่เครื่องบอกเวลา แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความเร็วและความหรูหราที่ผสานกันอย่างลงตัว
โรเล็กซ์ เดย์โทน่า ถื อ ว่ า เ ป็ น น า ฬิ ก า ที่ มี ทั้ ง ป ร ะ วั ติ ศ า ส ต ร์ อั น ย า ว น า น ค ว า ม ล้ำ ส มั ย ใ น ด้ า น เ ท ค โ น โ ล ยี แ ล ะ ค ว า ม ห รู ห ร า ที่ ค ร อ ง ใ จ ผู้ ค น ทั่ ว โ ล ก ไ ม่ ว่ า จ ะ เ ป็ น ใ น โ ล ก ข อ ง ก า ร แ ข่ ง ร ถ ห รื อ ต ล า ด น า ฬิ ก า ห รู